1 ความคิดรวบยอด
การบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังได้แก่
การบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง 1) ส่วนคอ 2) ส่วนอก และ 3) ส่วนเอว โดยเฉพาะกระดูกสันหลังส่วนคอ
มักพบร่วมกับการบาดเจ็บที่ศีรษะ การปฐมพยาบาล การนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล
และการดูแลที่เหมาะสม จะสามารถช่วยลดความพิการและอัตราการตายจากโรคแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นหลังการบาดเจ็บได้
การดูแลผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง ไม่แตกต่างจากการดูแลผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บจากกระดูกหักทั่วไป
คือ การจัดแนวกระดูกให้ถูกต้อง ตรึงให้อยู่กับที่ และแก้ไขผลแทรกซ้อนที่เกิดขึ้น
ตามอาการ อาการแสดงที่ตรวจพบ
การบาดเจ็บที่ทรวงอก มักเกิดจากการกระแทกของวัตถุที่ไม่มีคม
เช่น ถูกเตะ ถูกตีจากของแข็ง หรือถูกแทงด้วยวัตถุมีคม ถูกแทงด้วยของแหลม
มักทำให้เกิดการหักของกระดูกซี่โครง มีการช้ำของปอด มีการทะลุของปอดและเยื่อหุ้มปอด
ซึ่งส่งผลต่อระบบการหายใจ เช่น ภาวะอกรวน ภาวะปอดแฟบ เป็นต้น
2. จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
เมื่อจบการเรียนการสอนนี้แล้ว นักศึกษาสามารถ
1. อธิบายลักษณะและชนิดของการบาดเจ็บและผลแทรกซ้อนจากการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังและทรวงอก
2. อธิบายกลไกของภาวะที่แทกซ้อนที่เกิดขึ้นภายหลังจากการบาดเจ็บที่ผนังทรวงอกและปอด
3. อธิบายและแสดงวิธีการตรวจประเมินผู้ป่วยที่ได้รับการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังและทรวงอก
4. สามารถค้นหาและระบุข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับประเด็น
ปัญหา
5. ระบุข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการวินิจฉัยและให้การรักษาเบื้องต้นในผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ
6. สามารถตั้งสมมติฐาน
ลงข้อสรุป และยืนยันข้อสรุปอย่างสมเหตุสมผล
3. เนื้อหา
1. การบาดเจ็บของกระดูกสันหลังแบ่งออกเป็น
1) การบาดเจ็บของกระดูกส่วนคอ (cervical) 2) การบาดเจ็บของกระดูกส่วนอก
(thoracic), 3) การบาดเจ็บของกระดูกสันหลังส่วนเอว (lumbar)
2. การบาดเจ็บของกระดูกสันหลังส่วนคอมักเกิดร่วมกับการบาดเจ็บที่ศีรษะ
3. ลักษณะของการบาดเจ็บของกระดูกสันหลัง
กรณีที่การบาดเจ็บไม่รุนแรง มักจะพบมีการแตกหักของกระดูกส่วน body
เกิดการฉีกขาดของ ligaments หากการบาดเจ็บรุนแรง มักเกิดการแตกหักของกระดูกส่วนด้านหลังต่อ
body เป็นผลให้เกิดการเคลื่อนของกระดูกสันหลัง จนเกิดการบาดเจ็บของไขสันหลัง
4. ผลจากการบาดเจ็บของกระดูกสันหลังมักทำให้เกิดการบาดเจ็บของไขสันหลังร่วมด้วย
ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้ป่วยเกิดความพิการเป็นอัมพาตชนิด paraplegia
และ quadriplegia
5. การปฐมพยาบาลและการส่งต่อผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บของกระดูกสันหลังที่ถูกต้อง
สามารถลดความพิการและป้องกันผลแทรกซ้อนที่เกิดขึ้น
6. การรักษาผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บของกระดูกสันหลัง
ไม่แตกต่างจากรักษาผู้ป่วยที่กระดูกหักทั่วไปโดยการจัดแนวกระดูกให้ถูกต้อง
และตรึงให้อยู่นิ่ง ด้วยเหล็กดามภายในและลวดผูก (ORIF) การใส่เฝือกลำตัว
หรือ ใส่ extension brace ขึ้นกับความรุนแรงและความมั่นคงของแนวกระดูกสันหลัง
7. เนื่องจากกระดูกสันหลังส่วนคอบอบบางและไม่มีโครงสร้างอื่นมาช่วยเสริมความแข็งแรง
จึงมักพบการบาดเจ็บกระดูกสันหลังส่วนคอร่วมกับการบาดเจ็บศีรษะมากที่สุด
ทำให้เกิดการบาดเจ็บของไขสันหลังส่วนคอ หากกระดูกที่แตกนั้นไม่สามารถจัดแนวให้เข้าที่และตรึงด้วยการผ่าตัดแล้ว
แพทย์มักรักษาด้วยการนอนบนเตียง stryker flame ร่วมการดึงกะโหลกให้กระดูกติดเอง
ใช้เวลาประมาณ 3 เดือน
8. ผู้ป่วยที่มีการบาดเจ็บของไขสันหลังระดับสูงทำให้เกิดอัมพาตชนิด
quadriplegia มักมีปัญหาด้านการหายใจ เนื่องจากสูญเสียการทำงานของกล้ามเนื้อช่วยการหายใจ
และในระยะแรกจำเป็นต้องเจาะคอและใช้เครื่องช่วยหายใจ จึงส่งผลให้เกิดผลแทรกซ้อนทางด้านทรวงอก
9. การบาดเจ็บที่กระดูกที่ทรวงอกอาจเกิดจากการกระแทกของวัตถุที่ไม่มีความได้แก่
การถูกเตะ ถูกตีด้วยของแข็ง และวัตถุมีความได้แก่ การถูกแทงด้วยของแหลม
10. ผลการบาดเจ็บมักทำให้เกิดการหักของกระดูกซีโครง
การบาดช้ำของปอด การทะลุของเนื้อเยื่อปอดและปอด
11. ผลแทรกซ้อนจากการบาดเจ็บที่ปอดและเยื่อหุ้มปอดฉีกขาดได้แก่
1) เกิดภาวะอกรวน (flail chest) 2) ภาวะปอดแฟบ เป็นต้น
12. ภาวะอกรวน เกิดจากการการไม่มั่นคงของโครงกระดูกทรวงอก
(กระดูกซึ่โครงหักเป็นหลายท่อน) ทำให้กลไกการหายใจปกติเสียไป กล่าวคือ
ขณะหายใจเข้าทรวงอกบริเวณที่ซีโครงหักจะเกิดการยุบตัวลง และกลับขยายโป่งออกขณะหายใจออก
(paradoxical breathing) การรักษามักกระทำได้โดยพยายามให้ซีโครงส่วนที่หักนั้นเกิดการอยู่นิ่งและแข็งแรงพอขณะมีการหายใจเข้าออก
สามารถกระทำได้โดยการปิดทับผนังทรวงอกส่วนนั้นๆด้วยแผ่นพลาสติกที่สะอาด
หรือใช้เครื่องช่วยหายใจชนิดแรงดันบวก
13. ภาวะปอดแฟบ (atelectasis) ชนิดที่เกิดจากการบาดเจ็บของเยื่อหุ้มปอดและเนื้อปอด
มักเกิดจากลมที่รั่วเข้ามาในช่องเยื่อหุ้มปอด (pneumothorax) ดันให้ปอดขยายตัวไม่ได้ปกติ
จนแฟบเล็ก ภาวะปอดแฟบเนื่องจากลมรั่วเข้าปอด มักเบียดให้ mediastinum
เคลื่อนไปด้านตรงข้ามกับปอดด้านที่แฟบเสมอ
14. การตรวจประเมินผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บของไขสันหลังและทรวงอกที่สำคัญคือ
ประเมินระดับของการบาดเจ็บของไขสันหลังโดยประเมินการสูญเสียความรู้สึก
กำลังกล้ามเนื้อ รีเฟ็กซ์ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อที่ช่วยการหายใจ และประเมินกายภาพบำบัดของระบบหายใจโดยเฉพาะ
รูปแบบการหายใจ ชนิด (mode) ของเครื่องช่วยหายใจ เป็นต้น
4. กิจกรรมการเรียนการสอน
4.1 ขั้นนำ
1. เริ่มต้นผู้สอนทักทายผู้เรียน โดยเริ่มจาก ผู้ป่วยที่ได้รับอุบัติเหตุส่วนมาก
มักจะไม่มีการบาดเจ็บเฉพาะที่ศีรษะเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่มักมีการบาดเจ็บส่วนอื่นๆร่วมด้วย
จากนั้นพยายามกระตุ้นให้ผู้เรียนพบทวนสิ่งที่ตนเองมีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บว่า
มักพบมีการบาดเจ็บส่วนใดบ้าง
2. ผู้สอนนำอภิปรายว่า เพราะเหตุใดผู้ป่วยที่มีการบาดเจ็บที่ศีรษะ
จึงมีการบาดเจ็บของกระดูกสันหลัง และกระดูกทรวงอกร่วมด้วยเสมอ และผลแทรกซ้อนเหล่านั้นมีผลแทรกซ้อนทางทรวงอกหรือไม่
และกายภาพบำบัดจะมีส่วนช่วยเหลือ หรือร่วมรักษาอย่างไร ?
3. ผู้สอนแจ้งวัตถุประสงค์ของการเรียนว่า จะเรียนเรื่อง
การบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังและทรวงอก
4.2 ขั้นสอน: เสนอปัญหา/เนื้อหา
ผู้สอนแจกใบงานที่ 1 ซึ่งเป็นเนื้อหาที่จะเรียน
ให้กับผู้เรียนทุกคน
4.2.1 กิจกรรมไตร่ตรองรายบุคคล
ผู้สอนบอกให้ผู้เรียนทำความเข้าใจกับใบงาน
โดยการคิดพิจารณาด้วยตนเองอย่างอิสระตามลำพัง ห้ามมิให้ปรึกษาหารือกัน
โดยผู้สอนพยายามกระตุ้นให้ผู้เรียนคิดด้วยตนเอง ตามกระบวนการและองค์ประกอบของกระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
เช่น 1) กระบวนการกำหนดประเด็นปัญหา 2) กระบวนการหาข้อสรุป 3) กระบวนการพิจารณาหาเหตุผลประกอบ
เป็นต้น
ผู้สอนพยายามสังเกต และบันทึกพฤติกรรมของผู้เรียนอย่างเป็นระบบ
กระตุ้นให้ผู้เรียนได้บันทึกในสิ่งที่ตนเองได้คิดอย่างเป็นระบบ โดยกำหนดเวลา
และให้เวลาอย่างเพียงพอ เพื่อให้ผู้เรียนได้ใช้ความคิดของตนเองอย่างเต็มที่
4.2.2 กิจกรรมไตร่ตรองระดับกลุ่มย่อย
หลังจากที่ผู้เรียนได้มีโอกาสใช้กระบวนการคิดของตนเองแล้ว
ให้ผู้เรียนได้รวมกลุ่มย่อยกับเพื่อนที่ได้แบ่งกันไว้แล้ว เพื่อให้ผู้เรียนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นของตนเองกับเพื่อนๆสมาชิกในกลุ่ม
โดยให้สมาชิกได้อ่านสิ่งที่ตนได้คิดให้เพื่อนสมาชิกฟัง ขณะที่สมาชิกในกลุ่มที่เหลือตั้งใจฟังพร้อมจดบันทึกประเด็นสำคัญ
เพื่อเปรียบเทียบในสิ่งที่ตนเองคิด ร่วมกันอภิปรายความเหมือน ความแตกต่าง
และกระบวนการคิด ช่วยกันสรุปแนวคิดดังกล่าวนั้นให้เป็นแนวคิดของกลุ่ม
ในรูปแผนภูมิมโนมติ (concept map) หรือตารางเพื่อนำเสนอในกลุ่มใหญ่ต่อไป
4.2.3 การเสนอผลและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นต่อกลุ่มใหญ่
ส่งตัวแทนของกลุ่มเพื่อนำเสนอแนวคิดต่อประเด็นที่ให้ตามใบงานของกลุ่มต่อกลุ่มใหญ่
โดยผู้สอนได้ใช้การคิดเลือกตัวแทนของกลุ่มตามวิธี TGT เพื่อให้เกิดบรรยากาศของการแข่งขัน
เพื่อเร่งเร้าการมีส่วนร่วมของกลุ่ม ร่วมกันอภิปราย แสดงเหตุผลและความคิดเห็นของตน
ของกลุ่มย่อย ต่อกลุ่มใหญ่รวมเป็นความคิดเห็นของชั้น
4.3 ขั้นสรุป
ผู้สอนร่วมกับผู้เรียนร่วมกันสรุปแนวคิด
หลักการ หรือความคิดรวบยอดของทักษะกระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณที่ได้
และสรุปเนื้อหาตามหลักสูตร
เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ซักถามประเด็นที่สงสัย
ทั้งหมด โดยเฉพาะในจุดที่ยังไม่เข้าใจ โดยผู้สอนจะอธิบายเพิ่มเติมจนผู้เรียนเกิดความเข้าใจทั้งหมด
อย่างชัดเจน
4.4 ขั้นพัฒนาทักษะ
ผู้สอนแจกใบงานที่ 2 ให้ผู้เรียนจับกลุ่มกับเพื่อนๆในกลุ่มย่อย
กลุ่มละ 3 คน เพื่อฝึกการซักประวัติและตรวจร่างกาย และวางแผนให้การรักษาทางกายภาพบำบัด
ในผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บตามที่ได้รับมอบหมาย อย่างเป็นลำดับ สรุปข้อความรู้ที่ได้
ประเด็นปัญหาที่ได้จากการฝึกปฏิบัติ อภิปรายแลกเปลี่ยนปัญหาที่พบในกลุ่มย่อย
นำเสนอผลการตรวจประเมิน และวางแผนการรักษาผู้ป่วย
ในชั้นเรียน โดยเพื่อนๆร่วมกันอภิปราย และแสดงความคิดเห็น
4.5 ขั้นพัฒนาการนำไปใช้
ผู้สอนเสนอกรณีตัวอย่างผู้ป่วยใหม่ในใบงานที่ 3
ซึ่งเป็นกรณีศึกษา โดยให้ผู้เรียนร่วมกันอภิปรายวิธีการแก้ปัญหาผู้ป่วยรายดังกล่าวโดยร่วมกันเสนอแนวคิด
และการแก้ปัญหาที่สมเหตุสมผล พร้อมทั้งแสดงเหตุผลประกอบ
5. การประเมินผล
เมื่อสิ้นสุดการเรียนการสอนแล้วผู้สอนจะประเมินผลการเรียนการสอนดังต่อไปนี้
1. ประเมินความรู้ความเข้าใจตามเนื้อหาในบทเรียน
โดยการสอบย่อยท้ายในแต่ละเรื่อง โดยที่ทุกคนจะต้องทำข้อสอบอย่างเต็มความสามารถ
โดยไม่ช่วยเหลือกันพยายามทำข้อสอบให้ดีที่สุด เพื่อพัฒนาความก้าวหน้าของตนเองและเพื่อให้กลุ่มประสบผลสำเร็จในที่สุด
2. ประเมินความรู้ความเข้าใจในบทเรียนโดยใช้ผลงานผู้เรียนเป็นหลัก
แบ่งออกเป็น
1) ผลงานรายบุคคล เป็นผลงานที่ผู้เรียนแต่ละคนปฏิบัติขณะร่วมกิจกรรมการเรียนการสอน
2) ผลงานของกลุ่ม เป็นผลงานที่ผู้เรียนปฏิบัติร่วมกันเป็นกลุ่มในระหว่างที่ร่วมกิจกรรม
3. การสะท้อนผลการทำงานของกลุ่ม โดยให้แต่ละกลุ่มประเมินการทำงานของตนเอง
แล้วเสนอผลการประเมิน และสิ่งที่ต้องการปรับปรุงต่อไป
4. ประเมินกิจกรรมและกระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียน
โดยคณาจารย์ผู้ร่วมสอน โดยการสังเกตการทำกิจกรรมของผู้เรียนด้วยแบบประเมินพฤติกรรม
และสุ่มสัมภาษณ์ผู้เรียนโดยแบบสัมภาษณ์
แนวคำถามแผนการสอนที่
1
1. การบาดกระดูกสันหลังแบ่งออกเป็นกี่ชนิด
อะไรบ้าง ชนิดไหนรุนแรงและต้องให้การเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
2. การปฐมพยาบาลและการตรวจร่างกายผู้ป่วยที่มีบาดเจ็บกระดูกสันหลังทำอย่างไร
ปัจจัยใดบ้างที่ควรให้ความตระหนักมากกว่าการบาดเจ็บบริเวณอื่นๆ
3. ผลแทรกซ้อนที่มักเกิดขึ้นจากการบาดเจ็บกระดูกสันหลกายภาพบำบัดในผู้ปวยที่ได้รับบาดเจ็บกระดูกสันหลังมีอะไรบ้าง
ใบงานที่
1: เรื่องการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังและทรวงอก
-------------------------------------------------------------
คำชี้แจง
1.
หลังจากนักศึกษาได้อ่านเนื้อหาเรื่อง กายภาพบำบัดในผู้ป่วยภาวะบาดเจ็บ
(ได้แจกให้อ่านก่อนการเรียนการสอน 2 สัปดาห์) ให้พิจารณาปัญหาผู้ป่วยที่ให้
2. พิจารณาประเด็นคำถาม
และตอบคำถามด้วยตนเองโดยพิจารณาจากเอกสารประกอบการสอน และตำราต่างๆในห้องสมุด
(หากต้องการ) โดยนักศึกษาจะต้องเป็นผู้พิจารณาด้วยตนเองไม่ปรึกษาหารือผู้อื่นใช้เวลาประมาณ
15นาที
3. ให้รวมกลุ่มและปรึกษาหารือกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนๆในกลุ่ม
เป็นเวลา 15 นาที
4. นำเสนอในกลุ่มใหญ่
ใช้เวลากลุ่มละ 5 นาที
----------------------------------------------------
ปัญหาผู้ป่วย
ผู้ป่วยชายไทยอายุ
21 ปี ได้รับอุบัติเหตุจากการขับรถมอเตอร์ไซด์ชนกับรถยนต์ ไม่หมดสติ
หลังการบาดเจ็บมีการชาตั้งแต่ระดับหน้าอกลงมา ไม่สามารถขยับแขนขาได้
หายใจหอบเหนื่อย การตรวจร่างกายเมื่อมาถึงโรงพยาบาล 30 นาที หลังบาดเจ็บ
แพทย์วินิจฉัยเบื้องต้นว่า ผู้ป่วยมีกระดูกสันหลังระดับ C5-6 แตกหักและเคลื่อนผิดแนว
กระดูกซีโครงระดับ 2,3,4,5 ด้านขวาหักเป็นหลายท่อน แทงทะลุเยื่อหุ้มปอด
และปอด จนเกิดภาวะลมและเลือดในช่องเยื่อหุ้มปอด (hemo-pneumothorax)
และภาวะปอดข้างขวาแฟบ (Rt LLL atelectasis) ขณะนี้แพทย์ได้เจาะกะโหลกและตรึงด้วยน้ำหนักเพื่อดึงแนวกระดูกสันหลังคอ
นอนบนเตียง styker flame และใส่สายระบายเลือดและลม (chest drain)
ข้างขวาผ่านลงขวด 3 ขวด และเครื่องดูดอากาศและเลือด ได้ของเหลวสีแดงคล้ำเป็นจำนวนมาก
ขณะนี้ผู้ป่วยมีสัญญานชีพปกติ สามารถพูดคุยได้ดี
ประเด็นคำถามที่ให้พิจารณา
1. จากสถานการณ์ที่กำหนด ท่านเห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของแพทย์ที่ว่า
1) ผู้ป่วยมีภาวะกระดูกสันหลังระดับ C5,6 แตกหักและเคลื่อนผิดแนว,
2) ผู้ป่วยมีกระดูกซึ่โครงระดับ 2,3,4,5 ด้านขวาหักเป็นท่อน แทงทะลุเยื่อหุ้มปอดและปอด
จนเกิดภาวะ Rt. hemo-pneumothorax และ Rt. LLL atelectasis หรือไม่?
และสามารถตรวจสอบประเด็นดังกล่าวว่าถูกต้องจริงได้อย่างไร? จงแสดงเหตุผล/หลักฐานประกอบการอธิบายในประเด็นที่เป็นไปได้
2. ท่านสามารถอธิบายถึงความแตกต่างอย่างไร?
ระหว่างภาวะ pneumo-thorax และภาวะ fail chest ในประเด็น สาเหตุ
อาการ อาการแสดง หลักฐานการวินิจฉัย และการดูแลรักษาทางการแพทย์และทางกายภาพบำบัดเบื้องต้น
3. หากท่านได้รับมอบหมายให้ดูแลทางด้านกายภาพบำบัดในผู้ป่วยรายนี้
ท่านจะมีวิธีการประเมิน และให้การรักษาทางกายภาพบำบัดกับผู้ป่วยอย่างไร
จงแสดงเหตุผลต่อประเด็นดังกล่าว?
4. จงวาดรูปแสดงวิธีการต่อขวดเพื่อระบายอากาศและเลือดในช่องเยื่อหุ้มปอดของผู้ป่วยรายนี้
ในมุมมองที่เป็นไปได้?
ใบงานที่ 2: การบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังและทรวงอก
---------------------------------------------
คำชี้แจง
หลังจากนักศึกษาได้รับ
รายชื่อผู้ป่วย การวินิจฉัยเบื้องต้น เลขที่เตียงและตึกผู้ป่วยแล้ว
ให้นักศึกษาปฏิบัติดังต่อไปนี้
1.ให้สมาชิกในแต่ละกลุ่ม
(กลุ่มละ 3คน) ซักประวัติ ตรวจร่างกายผู้ป่วย โดยนักศึกษาทุกคนจะต้องเป็นผู้พิจารณาด้วยตนเองไม่ปรึกษาหารือผู้อื่น
ใช้ประสบการณ์และความรู้ที่เรียนมาในบทเรียนก่อนๆ
2.
ให้พิจารณาประเด็นคำถาม และตอบคำถามด้วยตนเองโดยพิจารณาจากเอกสารประกอบการสอน
และตำราต่างๆในห้องสมุด (หากต้องการ) โดยนักศึกษาจะต้องเป็นผู้พิจารณาด้วยตนเองไม่ปรึกษาหารือผู้อื่นใช้เวลาประมาณ
25 นาที
3. ให้รวมกลุ่ม(กลุ่มละ
6 คน) และปรึกษาหารือกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนๆในกลุ่ม
เป็นเวลา 20 นาที
4. นำเสนอในกลุ่มใหญ่
ใช้เวลากลุ่มละ 5 นาที
----------------------------------------------------------------------
ประเด็นคำถามที่ให้พิจารณา
1. สาเหตุที่สำคัญที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง/ทรวงอกของผู้ป่วยรายที่ท่านได้รับคืออะไร
เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น?
2. ผลของอุบัติเหตุในผู้ป่วยรายนี้มักนำมาสู่ปัญหาให้กับผู้ป่วยด้านใดมากที่สุด
เพราะเหตุใด?
3. จากการซักประวัติและตรวจร่างกาย
พบปัญหาของผู้ป่วยเมื่อตอนที่ผู้ป่วยถูกส่งมาโรงพยาบาลครั้งแรกหลังบาดเจ็บ
การรักษาในระยะแรก และปัญหาปัจจุบันของผู้ป่วยรายนี้คืออะไร? จงอธิบายและยกเหตุผลประกอบ?
4. ท่านได้ซักประวัติและตรวจร่างกายผู้ป่วยรายนี้อย่างไรบ้าง?
จงแสดงเหตุผลว่าทำไมจึงตรวจเช่นนั้น?
5. แพทย์ได้วินิจฉัยโรคของผู้ป่วยว่ามีปัญหาอะไร?
ท่านสามารถตรวจสอบประเด็นดังกล่าวว่าถูกต้องจริงได้อย่างไร? และใช้หลักฐานอะไรบ้าง?
6. ผู้ป่วยรายนี้มีข้อห้ามและข้อควรระวังอะไรบ้าง
จงอธิบายและยกเหตุผลประกอบ
7. หากจำเป็นต้องให้การรักษาทางกายภาพบำบัด
จะรักษาอะไรบ้าง จงอธิบายและยกเหตุผลประกอบ?
8. Prognosis ของผู้ป่วยเป็นอย่างไร
เพราะเหตุใดจึงคิดเช่นนั้น?
ใบงานที่ 3: แบบฝึกหัดการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังและทรวงอก
------------------------------------------------------------------
คำชี้แจง
1.ให้นักศึกษาฝึกทำแบบฝึกหัด ที่เป็นตัวอย่างกรณีผู้ป่วยเป็นการบ้าน
โดยพิจารณาปัญหาของผู้ป่วยที่ให้ ด้วยตนเองไม่ปรึกษากัน หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่
somch_ra@kku.ac.th
-----------------------------------------------------------
ปัญหาผู้ป่วย 1
ผู้ป่วยชายไทยอายุ 30 ปี
ได้รับอุบัติเหตุจากรถชนกัน ผู้ป่วยสลบไปทันที มีผู้นำส่งโรงพยาบาล
40 นาที หลังบาดเจ็บ พบว่า ผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว ไม่ทำตามคำสั่งเวลาถูกหยิกให้เจ็บ
มีการเกร็งเหยียดของแขนขาทั้งสองข้าง ได้รับการใส่สายระบายทรวงอกบริเวณชายโครงด้านซ้าย
ใส่ท่อช่วยหายใจทางปาก และเครื่องช่วยหายใจ Bird's respirator สัญญาณชีพปกติ
คำถาม
1. ปัญหาของผู้ป่วยรายนี้มีอะไร?
จงสรุปประเด็นปัญหาที่พบจากข้อมูลที่ได้รับ และสมมติฐานที่เป็นไปได้จากประสบการณ์ที่ท่านมี
2. หากท่านเป็นผู้ให้การรักษา
ท่านจะมีวิธีการดูแลรักษาเบื้องต้นให้กับผู้ป่วยรายนี้อย่างไร?
3. การพยากรณ์โรคในผู้ป่วยรายนี้เป็นอย่างไร?
เพราะเหตุใดจึงคิดเช่นนั้น?
--------------------------------------------------
ปัญหาผู้ป่วย 2
ผู้ป่วยชายไทยอายุ 25 ปี
ได้รับอุบัติเหตุรถยนต์ชนกัน ไม่รู้สติ มีผู้นำส่งโรงพยาบาล แพทย์วินิจฉัยว่ามีการบาดเจ็บของสมองและกระดูกสันหลังระดับ
C1-2 dislocation ได้รับการดึงกะโหลกบนเตียง styker flame ยังไม่ได้สติ
ขณะนี้ผู้ป่วยยังไม่รู้สึกตัว ไม่ทำตามคำสั่งเวลาถูกหยิกให้เจ็บ ไม่สามารถขยับแขนขาทั้งสองข้าง
สัญญาณชีพปกติ
คำถาม
1. ปัญหาของผู้ป่วยรายนี้มีอะไร?
และคาดว่ามีการบาดเจ็บของสมองประเภทใด? จงแสดงเหตุผลประกอบสิ่งที่คิดว่าจะเป็นไป
2. หากท่านจำเป็นต้องเป็นผู้ให้การรักษา
ท่านจะดูแลรักษาเบื้องต้นผู้ป่วยรายนี้อย่างไร?
3. การพยากรณ์โรคเป็นอย่างไร?
เพราะเหตุใดจึงคิดเช่นนั้น?
|