1
ความคิดรวบยอด
เครื่องอัลตราไวโอเลตสำหรับกายภาพบำบัด
เป็นเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ที่ให้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในย่านแสงอัลตราไวโอเลตที่มีความยาวคลื่นประมาณ
180-400 นาโนเมตร ซึ่งผลการรักษาทางกายภาพบำบัดจากรังสีอัลตราไวโอเลตเกิดจากผลทางปฏิกิริยาเคมีของแสง
(photochemical effect) กับร่างกาย เช่น การสร้างวิตามินดี กระตุ้นการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ
2. จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
เมื่อจบการเรียนการสอนนี้แล้ว นักศึกษาสามารถ
1. อธิบายหลักการทำงานเบื้องต้น
ผังอย่างง่าย และวงจรพื้นฐานของเครื่องอัลตราไวโอเลต
2. อธิบายส่วนประกอบและลักษณะของอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้กับเครื่องอัลตราไวโอเลต
3. อธิบายวิธีการใช้งานเบื้องต้นของเครื่องอัลตราไวโอเลต
4. อธิบายข้อบ่งชี้และข้อควรระวังของเครื่องอัลตราไวโอเลต
3. เนื้อหา
1.รังสีอัลตราไวโอเลต เป็นรังสีที่มีอยู่ตามธรรมชาติ
แหล่งกำเหนิดรังสีไวโอเลตที่สำคัญคือ ดวงอาทิตย์ รังสีอัลตราไวโอเลตแบ่งออกได้เป็น
3 ชนิด คือ 1) อัลตราไวโอเลต ชนิด A (UV-A) มีความยาวคลื่น 320-400
นาโนเมตร 2) อัลตราไวโอเลต ชนิด B (UV-B) มีความยาวคลื่น 290-320 นาโนเมตร
3) อัลตราไวโอเลต ชนิด C (UV-C) มีความยาวคลื่น 180-290 นาโนเมตร
2. เครื่องอัลตราไวโอเลต เป็นเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ทางกายภาพบำบัดที่ให้รังสีอัลตราไวโอเลตชนิดเอ
(UV-A) ประกอบด้วย 1) ตัวหลอดที่ให้รังสี 2) ตัวสะท้อนคลื่น 3) ขาตั้ง
และส่วนประกอบ
3. ชนิดหลอดที่ให้รังสีอัลตราไวโอเลต
ได้แก่ 1) หลอดไอปรอทความดันต่ำ (low pressure mercury lamp), 2) หลอดไอปรอทความดันสูง
(high pressure mercury lamp), 3) หลอดอัลตราไวโอเลตชนิดฟลูออเรสเซนซ์
(fluorescent ultraviolet lamp) ซึ่งอัลตราไวโอเลตที่ใช้สำหรับกายภาพบำบัดมักใช้ชนิด
หลอดไอปรอทความดันต่ำ และไอปรอทความดันสูง (ใช้น้อยลง)
4. วิธีการใช้เครื่องอัลตราไวโอเลต
โดยการจัดให้ลำแสงอัลตราไวโอเลตตกตั้งฉากกับผิวหนังหรือส่วนของร่างกายบริเวณที่ต้องการรักษา
โดยมีระยะห่างพอสมควรในเวลาที่กำหนด ซึ่งก่อนรักษาจะมีการทดสอบปฏิกิริยาของผิวหนังต่อแสง
(test dose) ก่อนเสมอ
4. กิจกรรมการเรียนการสอน
4.1 ขั้นนำ
ผู้สอนทบทวนเรื่องโฆษณาเรื่องการเกิดฝ้า
สาเหตุสำคัญคือรังสี UV หรือรังสีอัลตราไวโอเลต ทางกายภาพบำบัดได้ใช้รังสีอัลตราไวโอเลตเพื่อการรักษา
จากนั้นผู้สอนได้ชี้แจงวัตถุประสงค์และกิจกรรมการเรียนการสอน
4.2 ขั้นสอน: เสนอปัญหา/เนื้อหา
1. ผู้สอนนำเสนอปัญหาด้วยสาธิตการใช้เครื่องอัลตราไวโอเลต
2. เปิดโอกาสให้ผู้เรียนซักถามสิ่งที่ผู้เรียนเห็น
3. ผู้สอนได้ตอบประเด็นที่ผู้เรียนสงสัย
และแจกใบงานเพื่อให้ผู้เรียนได้ทำกิจกรรมการเรียนการสอน
4.2.1 กิจกรรมไตร่ตรองรายบุคคล
ผู้เรียนทำความเข้าใจกับกรณีปัญหาและประเด็นคำถามในใบงานที่ให้โดยการคิดพิจารณาด้วยตนเองอย่างอิสระตามลำพัง
ห้ามมิให้ปรึกษาหารือกัน ผู้เรียนสามารถค้นคว้าเพิ่มเติมได้จากเอกสารประกอบการสอนหรือหนังสือในห้องสมุดเพิ่มเติมได้
โดยผู้สอนพยายามกระตุ้นเร่งเร้าให้ผู้เรียนอ่านและตอบประเด็นปัญหาในใบงาน
อย่างไตร่ตรอง และพยายามสรุปประเด็นเนื้อหาและหาคำตอบในกระดาษเขียนตอบภายในเวลาที่กำหนด
ี่
4.2.2 กิจกรรมไตร่ตรองระดับกลุ่มย่อย
หลังจากที่ผู้เรียนได้มีโอกาสใช้กระบวนการคิดของตนเองและเขียนคำตอบเรียบร้อยแล้ว
เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้รวมกลุ่มย่อยกับเพื่อนที่ได้แบ่งกันไว้แล้ว
เพื่อให้ผู้เรียนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นของตนเองกับเพื่อนๆสมาชิกในกลุ่ม
ได้มีโอกาสเปรียบเทียบในสิ่งที่ตนเองคิดกับผู้อื่น โดยการนำเสนอเนื้อหาของตนเองที่ได้บันทึกไว้กับเพื่อนในกลุ่มซึ่งขณะที่นั่งฟังเพื่อนนำเสนอ
ร่วมกันอภิปรายและช่วยกันสรุปแนวคิดดังกล่าวนั้นให้เป็นแนวคิดของกลุ่ม
ในรูปแผนภูมิมโนมติ (concept map) หรือตารางเพื่อนำเสนอในกลุ่มใหญ่ต่อไป
4.2.3 การเสนอผลและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นต่อกลุ่มใหญ่
ผู้สอนสุ่มกลุ่มผู้เรียนให้ส่งตัวแทนของกลุ่มเพื่อนำเสนอแนวคิดต่อประเด็นที่ให้ตามใบงานของกลุ่มต่อกลุ่มใหญ่
โดยผู้สอนเร่งเร้าการมีส่วนร่วมของกลุ่ม ร่วมกันอภิปราย แสดงเหตุผลและความคิดเห็นของตน
ของกลุ่มย่อย ต่อกลุ่มใหญ่รวมเป็นความคิดเห็นของชั้น
4.3 ขั้นสรุป
ผู้สอนร่วมกับผู้เรียนร่วมกันสรุปแนวคิด
หลักการ หรือความคิดรวบยอดของทักษะกระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และสรุปเนื้อหาตามหลักสูตร
เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ซักถามประเด็นที่สงสัยทั้งหมด
โดยเฉพาะในจุดที่ยังไม่เข้าใจ โดยผู้สอนจะอธิบายเพิ่มเติมจนผู้เรียนเกิดความเข้าใจทั้งหมดอย่างชัดเจน
4.4 ขั้นพัฒนาทักษะ
ผู้สอนให้ผู้เรียนในแต่ละกลุ่มย่อย
ร่วมกันศึกษาเครื่องอัลตราไวโอเลตและอุปกรณ์ที่จัดเตรียมให้ตามคู่มือปฏิบัติการที่ให้
โดยพยายามพิจารณาถึงหลักการและเหตุผล ดังต่อไปนี้ 1) ศึกษาระบบลักษณะส่วนประกอบของเครื่อง
และหลักการทำงานพื้นฐาน โดยเขียนแผนภูมิตามความเข้าใจ 2) ทดสอบและศึกษาหลักการทำงานพื้นฐานของเครื่องตามแนวคิดทฤษฎีที่ท่านทราบ
3) ทดสอบการทำงานของเครื่องโดยนำมาประยุกต์ใช้กับเพื่อน เป็นต้น พยายามตอบคำถามตามใบงานที่ได้รับมอบหมาย
4.5 ขั้นพัฒนาการนำไปใช้
ผู้สอนเสนอประเด็นปัญหาเพื่อให้ผู้เรียนค้นคว้าผ่าน
web page หรือที่อื่นๆ ในหัวข้อเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ทางกายภาพบำบัดชนิดต่างๆที่เกี่ยวข้องกับความร้อนและแสง
และความก้าวหน้าและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง โดยส่งรายงานภายใน 2 สัปดาห์
ให้ตัวแทนผู้เรียนนำเสนอโครงงานที่รับมอบหมายต่อกลุ่มใหญ่เพื่อให้กลุ่มผู้เรียนร่วมกันอภิปราย
5. การประเมินผล
เมื่อสิ้นสุดการเรียนการสอนแล้วผู้สอนจะประเมินผลการเรียนการสอนดังต่อไปนี้
1. ประเมินความรู้ความเข้าใจตามเนื้อหาในบทเรียน
โดยการสอบย่อยท้ายในแต่ละเรื่อง โดยที่ทุกคนจะต้องทำข้อสอบอย่างเต็มความสามารถ
โดยไม่ช่วยเหลือกันพยายามทำข้อสอบให้ดีที่สุด เพื่อพัฒนาความก้าวหน้าของตนเองและเพื่อให้กลุ่มประสบผลสำเร็จในที่สุด
2. ประเมินความรู้ความเข้าใจในบทเรียนโดยใช้ผลงานผู้เรียนเป็นหลัก
แบ่งออกเป็น
1) ผลงานรายบุคคล เป็นผลงานที่ผู้เรียนแต่ละคนปฏิบัติขณะร่วมกิจกรรมการเรียนการสอน
2) ผลงานของกลุ่ม เป็นผลงานที่ผู้เรียนปฏิบัติร่วมกันเป็นกลุ่มในระหว่างที่ร่วมกิจกรรม
3. การสะท้อนผลการทำงานของกลุ่ม โดยให้แต่ละกลุ่มประเมินการทำงานของตนเอง
แล้วเสนอผลการประเมิน และสิ่งที่ต้องการปรับปรุงต่อไป
4. ประเมินกิจกรรมและกระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียน
โดยคณาจารย์ผู้ร่วมสอน โดยการสังเกตการทำกิจกรรมของผู้เรียนด้วยแบบประเมินพฤติกรรม
และสุ่มสัมภาษณ์ผู้เรียนโดยแบบสัมภาษณ์
แนวคำถาม
1. การทำงาน/หลักการทำงานของเครื่องอัลตราไวโอเล็ต
อิงความรู้ทางด้านฟิสิกส์อะไรบ้าง จงอธิบายและยกเหตุผลอย่างสมเหตุสมผล
2. หลักการทำงานเบื้องต้นของเครื่องอัลตราไวโอเล็ตเป็นอย่างไร
3. องค์ประกอบหลักที่สำคัญของเครื่องอัลตราไวโอเล็ตมีอะไรบ้าง
จงอธิบายพร้อมทั้งเขียนรูปประกอบสิ่งที่ท่านอธิบายอย่างสมเหตุสมผล
4. จงอธิบายข้อบ่งชี้ และข้อควรระวังด้านการรักษาด้วยเครื่องอัลตราไวโอเล็ต
5. จงอธิบายวิธีการใช้เครื่องกระตุ้นอัลตราไวโอเล็ต
และอธิบายว่าการใช้เครื่องอัลตราไวโอเล็ตมีข้อควรระวังอะไรบ้าง
ใบงาน
UV
-------------------------------------------------------------
คำชี้แจง
1.
หลังจากผู้เรียนได้อ่านเนื้อหาเรื่อง เครื่องอัลตราไวโอเล็ตมาแล้ว
(ได้มอบหมายให้อ่านล่วงหน้าก่อนการเรียนการสอนเป็นเวลา 1 สัปดาห์)
ให้พิจารณาประเด็นปัญหาที่ให้ ต่อไปนี้ โดยผู้เรียนจะต้องเป็นผู้พิจารณาด้วยตนเอง
ไม่ปรึกษาหารือผู้อื่น ใช้เวลา ประมาณ 20 นาที
2. จากนั้นให้ผู้เรียนรวมกลุ่มย่อย
และปรึกษาหารือกัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน กับเพื่อนๆในกลุ่ม
เป็นเวลาประมาณ 20 นาที
3. ส่งตัวแทนนำเสนอข้อสรุปที่ได้ในกลุ่ม
ใช้เวลากลุ่มละ 5 นาทีี
----------------------------------------------------
ประเด็นปัญหาที่ให้พิจารณา
1) "รังสีอัลตราไวโอเลต
(UV) ในธรรมชาติ เกิดจากก๊าซรอบๆดวงอาทิตย์ถูกเผาด้วยความร้อนสูงจนกระทั่งเกิดการแตกตัวเป็นไอออน
อิเล็กตรอนของก๊าซมีการเปลี่ยนระดับพลังงานและแผ่รังสี UV ออกมา
ในอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีองค์ประกอบของเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ปัจจุบัน
เช่น ทีวี จอมอนิเตอร์ต่างๆ ซึ่งมักต้องใช้กระแสไฟฟ้าที่มีศักย์สูง
กระตุ้นให้อิเล็กตรอนวิ่งชนจอภาพ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระดับพลังงานของอิเล็กตรอน
เกิดการแผ่รังสี UV ได้เช่นกัน" จากข้อเท็จจริงดังกล่าว ท่านเห็นด้วยหรือไม่อย่างไร
จงแสดงความคิดเห็นประกอบคำอธิบาย
2) จากคำกล่าวที่ว่า
"รังสีอัลตราไวโอเลตเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดมะเร็งที่ผิวหนัง
แต่ขณะเดียวกันทางกายภาพบำบัดใช้รังสีอัลตราไวโอเลตเพื่อการบำบัดรักษา"
ท่านมีความคิดเห็นต่อประเด็นดังกล่าวอย่างไร จงแสดงความคิดเห็นและยกตัวอย่างประกอบ
อย่างสมเหตุสมผล
3) จากคำกล่าวที่ว่า
"รังสีอัลตราไวโอเลตที่ใช้สำหรับจัดการแสดงบนเวที สามารถนำมาใช้รักษาทางกายภาพบำบัดได้"
ท่านเห็นด้วยกับคำกล่าวดังกล่าวหรือไม่ อย่างไร จงอธิบาย พร้อมทั้งยกตัวอย่างประกอบอย่างสมเหตุสมผล
4) จงอธิบายความเหมือนและความแตกต่างของรังสีอัลตราไวโอเลตที่ใช้สำหรับกายภาพบำบัด
รังสีอัลตราไวโอเลตที่มีอยู่ตามธรรมชาติ และรังสีอัลตราไวโอเลตที่ใช้สำหรับดักจับแมลง
5) จงอธิบายความเหมือนและความต่างของรังสีอินฟราเรด
และรังสีอัลตราไวโอเลตที่ใช้ทางกายภาพบำบัด
6) องค์ประกอบหลักที่สำคัญของเครื่องอัลตราไวโอเลตมีอะไรบ้าง
จงอธิบายและเขียนรูปประกอบอย่างสมเหตุสมผล
7) จงอธิบายข้อบ่งขี้และข้อควรระวังด้านการรักษา
ขณะใช้เครื่องอัลตราไวโอเลตทางกายภาพบำบัด ตามที่ทราบ
8) จงอธิบายลำดับขั้นตอน/วิธีการรักษาด้วยเครื่องอัลตราไวโอเลต
9) ขณะใช้เครื่องอัลตราไวโอเลตทางกายภาพบำบัด
มีข้อควรระวังอะไรบ้าง
|