คำอธิบายรายวิชา
แผนการสอนที่ 1
แผนการสอนที่ 2
แผนการสอนที่ 5
แผนการสอนที่ 6
แผนการสอนที่ 7
แผนการสอนที่ 8
แผนการสอนที่ 9
แผนการสอนที่ 10
แผนการสอนที่ 11
แผนการสอนที่ 12
แผนการสอนที่ 13
แผนการสอนที่ 14
      
| จุดประสงค์ | เนื้อหา | กิจกรรมกรรม | การประเมิน | คำถามนำ | ใบงาน | เอกสาร |
แผนการสอน 11-12: การใช้เลเซอร์ทางกายภาพบำบัด  (เวลา 6 คาบ)

1 ความคิดรวบยอด
      เลเซอร์ที่ใช้ทางกายภาพบำบัดเป็นเลเซอร์กำลังต่ำที่ให้พลังงานต่ำกว่า 500 มิลลิวัตต์ โดยทั่วไปมักใช้ประมาณ 50 มิลลิวัตต์/ตารางเซนติเมตร มักเรียกเลเซอร์ชนิดนี้ว่า เลเซอร์ชนิดเย็น หรือเลเซอร์ชนิดอ่อน ผลการรักษาทางกายภาพบำบัดไม่ใช่ผลของความร้อนจากลำแสง การใช้เลเซอร์ทางกายภาพบำบัดปัจจุบันเพื่อการระงับปวด และการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ
      การใช้เลเซอร์ทางกายภาพบำบัดเป็นการประยุกต์ภายนอกร่างกายผ่านผิวหนัง โดยไม่ได้หวังผลในด้านความร้อนของเลเซอร์ ผลการรักษาเพื่อกระตุ้นหรือเร่งกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ และการระงับความรู้สึกเจ็บปวด เทคนิคการใช้แสงเลเซอร์สามารถแบ่งตามลักษณะการใช้งานได้เป็น 2 ลักษณะคือ เทคนิคไม่สัมผัสและเทคนิคสัมผัสกับผิวหนังบริเวณที่รักษา

2. จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม

     เมื่อจบการเรียนการสอนนี้แล้ว นักศึกษาสามารถ
       1. อธิบายความแตกต่างของเลเซอร์ที่ใช้ทางกายภาพบำบัดและทางการแพทย์อื่นๆได้
       2. อธิบายผลทางสรีรวิทยาที่เกิดจากเลเซอร์ทางการแพทย์ได้
       3. แสดงเทคนิคการใช้เลเซอร์ทางกายภาพบำบัด
       4. อธิบายและแสงวิธีการคำนวณโดสและเวลาที่ใช้เลเซอร์ทางกายภาพบัด
       5. อธิบายข้อบ่งชี้ ข้อห้ามใช้ และข้อควรระวังของการใช้เลเซอร์ทางกายภาพบำบัด

3. เนื้อหา

     1. เลเซอร์ที่ใช้ทางการแพทย์สามารถแบ่งไดเป็น 2 ชนิดคือ เลเซอร์กำลังสูงที่มักใช้ทำผ่าตัด ได้แก่ CO2, Ruby, Argon, Krypton, Nd:YAG และเลเซอร์กำลังต่ำที่ใช้ทางกายภาพบำบัด ได้แก่ HeNe, GaAlAs, GaAs เป็นต้น
     2. เลเซอร์กำลังสูง มักให้ผลด้านความร้อน ทำให้เนื้อเยื่อมีอุณหภูมิสูงขึ้น ทำลายเนื้อเยื่อ ทำให้เนื้อเยื่อขาดน้ำ โปรตีนรวมเป็นก้อน แยกสลายเซลล์ เกิดการระเหิด แพทย์มักใช้แทนมีดในการทำผ่าตัด
     3. เลเซอร์กำลังต่ำ มักไม่ให้ผลด้านความร้อน เชื่อว่ามีส่วนช่วยกระตุ้นผลทางชีววิทยารอบๆเซลล์เร่งการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ นิยมใช้กระตุ้นการซ่อมแซมของแผลเรื้อรัง และการระงับอาการปวดเฉพาะที่
     4. เครื่องเลเซอร์ที่ใช้รักษาทางกายภาพบำบัดแบ่งตามลักษณะการปล่อยรังสีได้ 2 ชนิด คือ ชนิดที่ปล่อยออกอย่างต่อเนื่อง และชนิดที่ปล่อยออกเป็นช่วงๆ
     5. ข้อบ่งชี้สำหรับการใช้เลเซอร์ทางกายภาพบำบัดได้แก่ การระงับอาการปวดและการอักเสบของข้อและเนื้อเยื่อทั้งชนิดเฉียบพลันและเรื้อรัง กระตุ้นให้เกิดการซ่อมแซมของเนื้อเยื่อในแผลเรื้อรัง
     6. ข้อควรระวังสำหรับการใช้เลเซอร์ทางกายภาพบำบัดได้แก่         1)การส่องแสงเข้านัยน์ตาโดยตรงอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บต่อดวงตาดังนั้นจึงควรสวมแว่นตาที่เหมาะสม
       2)ไม่ควรใช้กับผู้ป่วยที่ได้รับการ radiotherapy
       3)ไม่ควรใช้บริเวณต่างๆดังนี้: บริเวณที่มีเลือดออกมาก บริเวณที่ไวต่อรังสี และ
       4)ไม่ควรฉายไปที่บริเวณที่เป็นต่อมไร้ท่อของร่างกาย
     7. ข้อห้ามใช้รังสีเลเซอร์ในกรณีต่อไปนี้ ผู้ป่วยที่เป็นลมชัก ผู้ป่วยโรคหัวใจ ผู้ที่มีไข้สูง มะเร็ง ห้ามฉายบริเวณห้องหรือท้องในสตรีที่มีครรภ์และระยะมีระดู ห้ามฉายบริเวณอัณฑะ บริเวณ epiphyses ของเด็ก บริเวณที่สูญเสียความรู้สึกรับรู้ บริเวณที่มีการติดเชื้อ บริเวณ sympathetic ganglian, vagus nerve, cardiac region เป็นต้น
     8. การประยุกต์ใช้รังสีเลเซอร์สำหรับการรักษาทางกายภาพบำบัดควรคำนึงถึง โดส หรือพลังงานที่ใช้สำหรับการรักษา ขึ้นกับระยะเวลาสำหรับปล่อยแสงเพื่อการรักษา ซึ่งช่วงเวลาสำหรับให้การรักษาคำนวณได้จาก พลังงานหรือกลังส่งออกของรังสีมักกำหนดมาจากโรงงาน ขนาดพื้นที่หน้าตัดของลำแสง ขนาดพื้นที่ที่รักษา ระยะห่างระหว่างแหล่งกำเนิดแสงและพื้นที่ที่รักษา (กรณีที่ใช้แบบไม่สัมผัส) และลักษณะการปล่อยรังสี เป็นต้น
     9. เทคนิคการใช้เลเซอร์ทางกายภาพบำบัดแบ่งตามลักษณะการใช้งานได้เป็น 2 ลักษณะ คือ เทคนิคไม่สัมผัส และเทคนิคสัมผัสกับผิวหนังบริเวณที่รักษา
     10. เทคนิคแบบไม่สัมผัสกับผิวหนัง เป็นเทคนิคที่ประยุกต์ใช้หัว probe ที่เป็นแหล่งกำเนิดเลเซอร์ฉายลงบนผิวหนัง โดยไม่มีการสัมผัสกับผิวหนัง มักนิยมใช้กับพื้นที่ที่รักษาเป็นบริเวณกว้างและไม่จำเพาะ หรือพื้นที่ที่ไม่สามารถใช้เทคนิคแบบสัมผัสได้ เช่น บริเวณที่เป็นแผลเปิด บริเวณที่เป็นช่องหรือเป็นโพรง เป็นต้น เทคนิคแบบไม่สัมผัสกับผิวหนังสามารถแบ่งได้เป็น เทคนิคกริด และเทคนิคสแกน
      11. เทคนิคแบบสัมผัสกับผิวหนัง มักเป็นเทคนิคที่ใช้เลเซอร์กระตุ้นเป็นจุดๆ มักใช้กับพื้นที่เล็กๆ หรือพื้นที่ที่ต้องการความจำเพาะมากกว่าเป็นบริเวณกว้างๆ ดังนั้นจึงมักนิยมใช้เทคนิคนี้เพื่อการระงับความรู้สึกเจ็บปวดบริเวณที่จุดกดเจ็บ หรือบริเวณจุดฝังเข็ม
      12. โดสของการรักษาด้วยเลเซอร์ขึ้นกับขนาดพื้นที่หน้าตัดของแสง กำลังส่งออกของเครื่อง พื้นที่ที่รักษา เพื่อนำมาคำนวณหาระยะเวลาของการรักษา

4. กิจกรรมการเรียนการสอน
    
    4.1 ขั้นนำ

          ผู้สอนทบทวนเรื่องแสงเลเซอร์ และการนำแสงเลเซอร์มาใช้ประโยชน์ ตามที่เคยเรียนในชั่วโมงที่แล้ว

   4.2 ขั้นสอน: เสนอปัญหา/เนื้อหา
          1. ผู้สอนได้บรรยายถึงเทคนิคใช้เลเซอร์ทางกายภาพบำบัดและผลการรักษาด้วยเลเซอร์ทางกายภาพบำบัด ข้อบ่งชี้ ข้อควรระวัง ใช้เวลาประมาณ 40 นาที
          2. จากนั้นผู้สอนสาธิตการใช้เครื่องเลเซอร์ทางกายภาพบำบัด
          3. เปิดโอกาสให้ผู้เรียนซักถามสิ่งที่ผู้เรียนเห็น
          4. ผู้สอนได้ตอบประเด็นที่ผู้เรียนสงสัย และแจกใบงานเพื่อให้ผู้เรียนได้ทำกิจกรรมการเรียนการสอน
     
      4.2.1 ขั้นพัฒนาทักษะ
         ผู้สอนเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ฝึกปฏิบัติในการใช้เครื่องเลเซอร์ชนิดต่างๆ ตามเทคนิคที่ได้สาธิต โดยให้ผู้เรียนเป็นหุ่นในการฝึก

    4.2.2 กิจกรรมไตร่ตรองรายบุคคล
          ผู้สอนแจกใบงาน ซึ่งเป็นประเด็นคำถามเพื่อให้ผู้เรียนได้อ่านและตอบคำถาม
          ผู้เรียนทำความเข้าใจกับกรณีปัญหาและประเด็นคำถามในใบงานที่ให้โดยการคิดพิจารณาด้วยตนเองอย่างอิสระตามลำพัง ห้ามมิให้ปรึกษาหารือกัน ผู้เรียนสามารถค้นคว้าเพิ่มเติมได้จากเอกสารประกอบการสอนหรือหนังสือในห้องสมุดเพิ่มเติมได้ โดยผู้สอนพยายามกระตุ้นเร่งเร้าให้ผู้เรียนอ่านและตอบประเด็นปัญหาในใบงาน อย่างไตร่ตรอง และพยายามสรุปประเด็นเนื้อหาและหาคำตอบในกระดาษเขียนตอบภายในเวลาที่กำหนด
ี่
    4.2.2 กิจกรรมไตร่ตรองระดับกลุ่มย่อย
          หลังจากที่ผู้เรียนได้มีโอกาสใช้กระบวนการคิดของตนเองและเขียนคำตอบเรียบร้อยแล้ว เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้รวมกลุ่มย่อยกับเพื่อนที่ได้แบ่งกันไว้แล้ว เพื่อให้ผู้เรียนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นของตนเองกับเพื่อนๆสมาชิกในกลุ่ม ได้มีโอกาสเปรียบเทียบในสิ่งที่ตนเองคิดกับผู้อื่น โดยการนำเสนอเนื้อหาของตนเองที่ได้บันทึกไว้กับเพื่อนในกลุ่มซึ่งขณะที่นั่งฟังเพื่อนนำเสนอ ร่วมกันอภิปรายและช่วยกันสรุปแนวคิดดังกล่าวนั้นให้เป็นแนวคิดของกลุ่ม ในรูปแผนภูมิมโนมติ (concept map) หรือตารางเพื่อนำเสนอในกลุ่มใหญ่ต่อไป

   4.2.3 การเสนอผลและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นต่อกลุ่มใหญ่
           ผู้สอนสุ่มกลุ่มผู้เรียนให้ส่งตัวแทนของกลุ่มเพื่อนำเสนอแนวคิดต่อประเด็นที่ให้ตามใบงานของกลุ่มต่อกลุ่มใหญ่ โดยผู้สอนเร่งเร้าการมีส่วนร่วมของกลุ่ม ร่วมกันอภิปราย แสดงเหตุผลและความคิดเห็นของตน ของกลุ่มย่อย ต่อกลุ่มใหญ่รวมเป็นความคิดเห็นของชั้น
   
4.3 ขั้นสรุป

         ผู้สอนร่วมกับผู้เรียนร่วมกันสรุปแนวคิด หลักการ หรือความคิดรวบยอดของทักษะกระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และสรุปเนื้อหาตามหลักสูตร
         เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ซักถามประเด็นที่สงสัยทั้งหมด โดยเฉพาะในจุดที่ยังไม่เข้าใจ โดยผู้สอนจะอธิบายเพิ่มเติมจนผู้เรียนเกิดความเข้าใจทั้งหมดอย่างชัดเจน

4.3 ขั้นพัฒนาการนำไปใช้
        1. ผู้สอนได้แจกใบงานซึ่งเป็นตัวอย่างกรณีปัญหาผู้ป่วย เพื่อให้ผู้เรียนได้ร่วมกันวางแผนให้การรักษาเป็นลำดับดังต่อไปนี้ ด้วยตนเองโดยไม่ปรึกษากัน
          1.1 ศึกษาและวิเคราะห์กรณีปัญหาผู้ป่วย
          1.2 การเลือกใช้เครื่องเลเซอร์เพื่อการรักษา
          1.3 การคำนวณโดส และช่วงเวลาสำหรับการรักษาในผู้ป่วย
          1.4 แสดงวิธีการประยุกต์ใช้เพื่อการรักษาในผู้ป่วย

5. การประเมินผล
   เมื่อสิ้นสุดการเรียนการสอนแล้วผู้สอนจะประเมินผลการเรียนการสอนดังต่อไปนี้
   1. สุ่มผู้เรียน เพื่อให้ออกมาสาธิตเทคนิคที่ได้ฝึก โดยมีผู้เรียนร่วมกันสังเกตการณ์และแนะนำการปฏิบัติ
   2. ผู้สอนร่วมกันแนะนำและชี้แนะจุดที่ควรระวัง และเพิ่มเติมประเด็นที่ยังขาด


แนวคำถาม


      1. หากท่านจำเป็นต้องใช้เลเซอร์เพื่อบำบัดความเจ็บปวดบริเวณข้อเท้าให้กับผู้ป่วยรายหนึ่ง ท่านจะมีลำดับขั้นตอนการรักษาอย่างไร
      2. ท่านจะให้ความระมัดระวังในการดูแลรักษาด้วยเครื่องเลเซอร์ทางกายภาพบำบัดอย่างไร
     


ใบงาน Laser
-------------------------------------------------------------

  คำชี้แจง
         1. หลังจากผู้เรียนได้ฝึกปฏิบัติการ รื่อง เครื่องเลเซอร์ทางกายภาพบำบัดมาแล้ว ให้พิจารณาประเด็นปัญหาที่ให้ ต่อไปนี้ โดยผู้เรียนจะต้องเป็นผู้พิจารณาด้วยตนเอง ไม่ปรึกษาหารือผู้อื่น ใช้เวลา ประมาณ 20 นาที
         2. จากนั้นให้ผู้เรียนรวมกลุ่มย่อย และปรึกษาหารือกัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน กับเพื่อนๆในกลุ่ม เป็นเวลาประมาณ 20 นาที
        3. ส่งตัวแทนนำเสนอข้อสรุปที่ได้ในกลุ่ม ใช้เวลากลุ่มละ 5 นาทีี

----------------------------------------------------

ประเด็นปัญหาที่ให้พิจารณา
       1) ท่านสามารถเปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่างระหว่างเลเซอร์ที่ใช้ทางกายภาพบำบัด และใช้ทางการแพทย์ได้ทั้งหมดกี่ข้อ และแต่ละข้อท่านยึดหลัก/ประเด็นอะไร จงแสดงต่างเปรียบเทียบพร้อมทั้งอธิบายเหตุผล
       2) ท่านสามารถอธิบายผลทางสรีรวิทยา ผลการรักษา ข้อบ่งชี้ ข้อควรระวัง ของการใช้เลเซอร์ทางกายภาพบำบัดได้หรือไม่
       3) หากจำเป็นต้องให้การรักษาแผลเรื้อรังในผู้ป่วยรายหนึ่ง ท่านจะมีวิธีการรักษาอย่างไร


 
 
ภาควิชากายภาพบำบัด คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น: จ.ขอนแก่น 40002
Copyright @ 2003 , All right reserved | Comments & Suggestions : somch_ra@kku.ac.th |