คำอธิบายรายวิชา
แผนการสอนที่ 1
แผนการสอนที่ 2
แผนการสอนที่ 5
แผนการสอนที่ 6
แผนการสอนที่ 7
แผนการสอนที่ 8
แผนการสอนที่ 9
แผนการสอนที่ 10
แผนการสอนที่ 11
แผนการสอนที่ 12
แผนการสอนที่ 13
แผนการสอนที่ 14
      
| จุดประสงค์ | เนื้อหา | กิจกรรมกรรม | การประเมิน | คำถามนำ | ใบงาน | เอกสาร |
แผนการสอน 7: วงจรพื้นฐานและส่วนประกอบของเครื่อง IR   (เวลา 3คาบ)

1 ความคิดรวบยอด
       เครื่องอินฟราเรดสำหรับกายภาพบำบัด เป็นเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ที่ให้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในย่านแสงอินฟราเรดที่มีความยาวคลื่นประมาณ 700-800,000 นาโนเมตร ซึ่งคลื่นแสงอินฟราเรดเป็นคลื่นความร้อน ดังนั้นผลการรักษาทางกายภาพบำบัดจากเครื่องอินฟราเรดจึงเป็นผลจากความร้อนตื้นและวิธีการส่งผ่านความร้อนจะมีลักษณะเป็นการแผ่รังสีความร้อน

2. จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม

     เมื่อจบการเรียนการสอนนี้แล้ว นักศึกษาสามารถ
       1. อธิบายหลักการทำงานเบื้องต้น ผังอย่างง่าย และวงจรพื้นฐานของเครื่องอินฟราเรด
       2. อธิบายส่วนประกอบและลักษณะของอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้กับเครื่องอินฟราเรด
       3. อธิบายวิธีการใช้งานเบื้องต้นของเครื่องอินฟราเรด
       4. อธิบายข้อบ่งชี้และข้อควรระวังของเครื่องอินฟราเรด
      

3. เนื้อหา

     1. เครื่องอินฟราเรด เป็นเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ทางกายภาพบำบัดที่สร้างคลื่นแม่เหล็กย่านแสงที่มีความยาวคลื่นประมาณ 700-800,000 นาโนเมตร หรือรังสีอินฟราเรด ซึ่งเป็นรังสีความร้อนที่มีอยู่ในธรรมชาติ แหล่งกำเหนิดรังสีอินฟราเรดที่สำคัญคือ ดวงอาทิตย์
     2. รังสีอินฟราเรดสามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ 1) รังสีอินฟราเรดไกล (long wave IR หรือ far IR) เป็นรังสีที่มีความยาวคลื่นมากกว่า 1,500 นาโนเมตร ขึ้นไป และ 2) รังสีอินฟราเรดใกล้ (short wave IR หรือ near IR) ซึ่งเป็นรังสีที่มีความยาวคลื่นน้อยกว่า 1,500 นาโนเมตร
     3. ตัวเครื่องอินฟราเรด ประกอบด้วย แหล่งจ่ายไฟ ส่วนควบคุมการทำงานของหลอด และส่วนประกอบอื่นๆ เช่น ขาตั้ง ที่สะท้อนแสง โดยหัวใจสำคัญของเครื่องอินฟราเรด คือ หลอดที่ให้รังสีอินฟราเรด
     4. หลอดรังสีอินฟราเรดแบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ 1) หลอดชนิดไม่เปล่งแสง (non luminous lamp) เป็นหลอดรังสีอินฟราเรดที่ให้รังสีอินฟราเรดเพียงอย่างเดียวมีความยาวคลื่น 770-1,500 นาโนเมตร ได้แก่ หลอดชนิดขดลวดพันรอบฉนวนไฟฟ้า และหลอดชนิดลวดฝังอยู่ในฉนวนไฟฟ้า 2) หลอดชนิดเปล่งแสง (luminous lamp) เป็นหลอดรังสีอินฟราเรดชนิดเปล่งแสง ซึ่งให้ทั้งรังสีอินฟราเรด 95 เปอร์เซ็นต์ และรังสีในย่านแสงที่มองเห็น 4.8 เปอร์เซ็นต์ และเป็นรังสีอัลตราไวโอเลต ประมาณ 0.1-0.2 เปอร์เซ็นต์
     5. วิธีการใช้เครื่องอินฟราเรด โดยการจัดให้ลำแสงอินฟราเรดตกตั้งฉากกับผิวหนัง หรือส่วนของร่างกายบริเวณที่ต้องการรักษา โดยมีระยะห่างพอสมควรที่ผู้ป่วยไม่ร้อนจนเกินไป
     6. ผลการรักษาเครื่องอินฟราเรดทางกายภาพบำบัด เพื่อผลทางความร้อนระดับตื้น ทำให้เพิ่มอัตราเมแทบอลิซึม เกิดการขยายตัวของหลอดเลือด ทำให้เกิดการผ่อนคลาย และเพิ่มการทำงานของต่อมเหงื่อ และการส่งผ่านความร้อนจะมีลักษณะเป็นการแผ่รังสีความร้อน
     7. ข้อควรระวังการใช้เครื่องอินฟราเรดทางกายภาพบำบัด ไม่ควรใช้กับผู้ป่วยที่สูญเสียระบบประสาทรับความรู้สึก ร้อน-หนาว เนื่องจากจะเกิดการไหม้พองของเนื้อเยื่อได้ง่าย

4. กิจกรรมการเรียนการสอน
    
    4.1 ขั้นนำ

          ผู้สอนทบทวนเรื่องคลื่นความร้อน การจับภาพของรังสีความร้อนซึ่งเกิดจากกระบวนการ metabolism ของสิ่งที่มีชีวิต ผู้สอนถามผู้เรียนให้ลองยกตัวอย่างแหล่งกำเหนิดรังสีอินฟราเรดที่เกิดขึ้นในธรรมชาติ ทางกายภาพบำบัดได้ใช้รังสีอินฟราเรดเพื่อการรักษา จากนั้นผู้สอนได้ชี้แจงวัตถุประสงค์และกิจกรรมการเรียนการสอน

   4.2 ขั้นสอน: เสนอปัญหา/เนื้อหา
          1. ผู้สอนนำเสนอปัญหาด้วยสาธิตการใช้เครื่องอินฟราเรด
          2. เปิดโอกาสให้ผู้เรียนซักถามสิ่งที่ผู้เรียนเห็น
          3. ผู้สอนได้ตอบประเด็นที่ผู้เรียนสงสัย และแจกใบงานเพื่อให้ผู้เรียนได้ทำกิจกรรมการเรียนการสอน
    4.2.1 กิจกรรมไตร่ตรองรายบุคคล
          ผู้เรียนทำความเข้าใจกับกรณีปัญหาและประเด็นคำถามในใบงานที่ให้โดยการคิดพิจารณาด้วยตนเองอย่างอิสระตามลำพัง ห้ามมิให้ปรึกษาหารือกัน ผู้เรียนสามารถค้นคว้าเพิ่มเติมได้จากเอกสารประกอบการสอนหรือหนังสือในห้องสมุดเพิ่มเติมได้ โดยผู้สอนพยายามกระตุ้นเร่งเร้าให้ผู้เรียนอ่านและตอบประเด็นปัญหาในใบงาน อย่างไตร่ตรอง และพยายามสรุปประเด็นเนื้อหาและหาคำตอบในกระดาษเขียนตอบภายในเวลาที่กำหนด
ี่
    4.2.2 กิจกรรมไตร่ตรองระดับกลุ่มย่อย
          หลังจากที่ผู้เรียนได้มีโอกาสใช้กระบวนการคิดของตนเองและเขียนคำตอบเรียบร้อยแล้ว เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้รวมกลุ่มย่อยกับเพื่อนที่ได้แบ่งกันไว้แล้ว เพื่อให้ผู้เรียนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นของตนเองกับเพื่อนๆสมาชิกในกลุ่ม ได้มีโอกาสเปรียบเทียบในสิ่งที่ตนเองคิดกับผู้อื่น โดยการนำเสนอเนื้อหาของตนเองที่ได้บันทึกไว้กับเพื่อนในกลุ่มซึ่งขณะที่นั่งฟังเพื่อนนำเสนอ ร่วมกันอภิปรายและช่วยกันสรุปแนวคิดดังกล่าวนั้นให้เป็นแนวคิดของกลุ่ม ในรูปแผนภูมิมโนมติ (concept map) หรือตารางเพื่อนำเสนอในกลุ่มใหญ่ต่อไป

   4.2.3 การเสนอผลและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นต่อกลุ่มใหญ่
           ผู้สอนสุ่มกลุ่มผู้เรียนให้ส่งตัวแทนของกลุ่มเพื่อนำเสนอแนวคิดต่อประเด็นที่ให้ตามใบงานของกลุ่มต่อกลุ่มใหญ่ โดยผู้สอนเร่งเร้าการมีส่วนร่วมของกลุ่ม ร่วมกันอภิปราย แสดงเหตุผลและความคิดเห็นของตน ของกลุ่มย่อย ต่อกลุ่มใหญ่รวมเป็นความคิดเห็นของชั้น
   
4.3 ขั้นสรุป

         ผู้สอนร่วมกับผู้เรียนร่วมกันสรุปแนวคิด หลักการ หรือความคิดรวบยอดของทักษะกระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และสรุปเนื้อหาตามหลักสูตร
         เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ซักถามประเด็นที่สงสัยทั้งหมด โดยเฉพาะในจุดที่ยังไม่เข้าใจ โดยผู้สอนจะอธิบายเพิ่มเติมจนผู้เรียนเกิดความเข้าใจทั้งหมดอย่างชัดเจน

4.4 ขั้นพัฒนาทักษะ
         ผู้สอนให้ผู้เรียนในแต่ละกลุ่มย่อย ร่วมกันศึกษาเครื่องอินฟราเร็ดและอุปกรณ์ที่จัดเตรียมให้ตามคู่มือปฏิบัติการที่ให้ โดยพยายามพิจารณาถึงหลักการและเหตุผล ดังต่อไปนี้ 1) ศึกษาระบบลักษณะส่วนประกอบของเครื่อง และหลักการทำงานพื้นฐาน โดยเขียนแผนภูมิตามความเข้าใจ 2) ทดสอบและศึกษาหลักการทำงานพื้นฐานของเครื่องตามแนวคิดทฤษฎีที่ท่านทราบ 3) ทดสอบการทำงานของเครื่องโดยนำมาประยุกต์ใช้กับเพื่อน เป็นต้น พยายามตอบคำถามตามใบงานที่ได้รับมอบหมาย

4.5 ขั้นพัฒนาการนำไปใช้

         ผู้สอนเสนอประเด็นปัญหาเพื่อให้ผู้เรียนค้นคว้าผ่าน web page หรือที่อื่นๆ ในหัวข้อเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ทางกายภาพบำบัดชนิดต่างๆที่เกี่ยวข้องกับความร้อนและแสง และความก้าวหน้าและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง โดยส่งรายงานภายใน 2 สัปดาห์
        ให้ตัวแทนผู้เรียนนำเสนอโครงงานที่รับมอบหมายต่อกลุ่มใหญ่เพื่อให้กลุ่มผู้เรียนร่วมกันอภิปราย


5. การประเมินผล
   เมื่อสิ้นสุดการเรียนการสอนแล้วผู้สอนจะประเมินผลการเรียนการสอนดังต่อไปนี้
   1. ประเมินความรู้ความเข้าใจตามเนื้อหาในบทเรียน โดยการสอบย่อยท้ายในแต่ละเรื่อง โดยที่ทุกคนจะต้องทำข้อสอบอย่างเต็มความสามารถ โดยไม่ช่วยเหลือกันพยายามทำข้อสอบให้ดีที่สุด เพื่อพัฒนาความก้าวหน้าของตนเองและเพื่อให้กลุ่มประสบผลสำเร็จในที่สุด
   2. ประเมินความรู้ความเข้าใจในบทเรียนโดยใช้ผลงานผู้เรียนเป็นหลัก แบ่งออกเป็น
       1) ผลงานรายบุคคล เป็นผลงานที่ผู้เรียนแต่ละคนปฏิบัติขณะร่วมกิจกรรมการเรียนการสอน
       2) ผลงานของกลุ่ม เป็นผลงานที่ผู้เรียนปฏิบัติร่วมกันเป็นกลุ่มในระหว่างที่ร่วมกิจกรรม
   3. การสะท้อนผลการทำงานของกลุ่ม โดยให้แต่ละกลุ่มประเมินการทำงานของตนเอง แล้วเสนอผลการประเมิน และสิ่งที่ต้องการปรับปรุงต่อไป
   4. ประเมินกิจกรรมและกระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียน โดยคณาจารย์ผู้ร่วมสอน โดยการสังเกตการทำกิจกรรมของผู้เรียนด้วยแบบประเมินพฤติกรรม และสุ่มสัมภาษณ์ผู้เรียนโดยแบบสัมภาษณ์


แนวคำถาม


      1. การทำงาน/หลักการทำงานของเครื่องอินฟราเรด อิงความรู้ทางด้านฟิสิกส์อะไรบ้าง จงอธิบายและยกเหตุผลอย่างสมเหตุสมผล
      2. หลักการทำงานเบื้องต้นของเครื่องอินฟราเรดเป็นอย่างไร
      3. องค์ประกอบหลักที่สำคัญของเครื่องอินฟราเรดมีอะไรบ้าง จงอธิบายพร้อมทั้งเขียนรูปประกอบสิ่งที่ท่านอธิบายอย่างสมเหตุสมผล
      4. จงอธิบายข้อบ่งชี้ และข้อควรระวังด้านการรักษาด้วยเครื่องอินฟราเรด
      5. จงอธิบายวิธีการใช้เครื่องอินฟราเรดตามที่ท่านทราบ
การใช้เครื่องอินฟราเรดมีข้อควรระวังอะไรบ้าง


ใบงาน IR
-------------------------------------------------------------

  คำชี้แจง
         1. หลังจากผู้เรียนได้อ่านเนื้อหาเรื่อง เครื่องอินฟราเรดมาแล้ว (ได้มอบหมายให้อ่านล่วงหน้าก่อนการเรียนการสอนเป็นเวลา 1 สัปดาห์) ให้พิจารณาประเด็นปัญหาที่ให้ ต่อไปนี้ โดยผู้เรียนจะต้องเป็นผู้พิจารณาด้วยตนเอง ไม่ปรึกษาหารือผู้อื่น ใช้เวลา ประมาณ 20 นาที
         2. จากนั้นให้ผู้เรียนรวมกลุ่มย่อย และปรึกษาหารือกัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน กับเพื่อนๆในกลุ่ม เป็นเวลาประมาณ 20 นาที
        3. ส่งตัวแทนนำเสนอข้อสรุปที่ได้ในกลุ่ม ใช้เวลากลุ่มละ 5 นาทีี

----------------------------------------------------

ประเด็นปัญหาที่ให้พิจารณา
       1. "การใช้แสงเพื่อการรักษานั้น มีมาตั้งแต่สมัยยุคหินแล้ว สมัยนั้นมนุษย์ถ้ำได้สังเกตว่า เมื่อนอนตากแดดบนก้อนหินที่ร้อนจากแสงแดด สามารถช่วยให้ร่างกายหายจากอาการปวดเมื่อย อ่อนล้า ทำให้ร่างกายสดชื่นแข็งแรงขึ้น"
จากข้อเท็จจริงที่ให้ ท่านเห็นด้วยกับคำกล่าวนี้หรือไม่ เพราะเหตุใด จงแสดงความคิดเห็นอย่างสมเหตุสมผล
       2. ในปัจจุบันชาวบ้านทั่วไป หากมีอาการปวดข้อมักปะคบร้อนด้วยอิฐเผาไฟ หรือใบพลับพลึงเผา ท่านคิดว่าการกระทำดังกล่าว แตกต่างจากการรักษาโดยการผึ่งแดดบนก้อนหินใหญ่ และใช้เครื่องอินฟราเรดอย่างไร จงอธิบายและยกเหตุผลประกอบสิ่งที่คิดอย่างสมเหตุสมผล
       3. ท่านเห็นด้วยกับคำกล่าวที่ว่า "แหล่งกำเนิดรังสีอินฟราเรดที่สำคัญได้แก่ ดวงอาทิตย์ นอกจากนั้น มนุษย์และสัตว์ ก็สามารถแผ่รังสีอินฟราเรด ได้เช่นกัน" หรือไม่อย่างไร จงแสดงความคิดเห็น
       4. ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรกับคำกล่าวที่ว่า "รังสีอินฟราเรด เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในย่านแสงที่มองไม่เห็น และเป็นรังสีความร้อน"จงแสดงเหตุผล และยกตัวอย่างสิ่งที่คิดอย่างสมเหตุสมผล
       5. เครื่องอินฟราเรดทางกายภาพบำบัด แบ่งออกเป็นกี่ชนิด อะไรบ้าง จงอธิบายและยกตัวอย่าง อย่างสมเหตุสมผล
       6. จงอธิบายข้อบ่งชี้และข้อควรระวังด้านการรักษา ขณะใช้เครื่องอินฟราเรดทางกายภาพบำบัด ตามที่ท่านทราบ
       7. จงอธิบายลำดับขั้นตอนของการใช้เครื่องอินฟราเรดสำหรับกายภาพบำบัด
       8. องค์ประกอบที่สำคัญของเครื่องอินฟราเรดทางกายภาพบำบัดมีอะไรบ้าง จงอธิบายและเขียนรูปประกอบอย่างสมเหตุสมผล
       9. ขณะใช้เครื่องอินฟราเรดทางกายภาพบำบัด มีข้อควรระวังอย่างไรบ้าง


 
 
ภาควิชากายภาพบำบัด คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น: จ.ขอนแก่น 40002
Copyright @ 2003 , All right reserved | Comments & Suggestions : somch_ra@kku.ac.th |